บทที่ 2 พาสามตัวน้อยกลับประเทศ
4 ปีต่อมา
ณ สนามบินเมืองเอช
เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้คนในสนามบินจึงพลุกพล่านกว่าปกติ
อลินาอุ้มลูกคนหนึ่งไว้ในอ้อมอก อีกมือจูงอีกคน พร้อมกำชับว่า "น้องแชมป์ จับมือน้องชายไว้ดีๆ นะลูก คนเยอะ เดี๋ยวจะหลงกัน"
"หม่ามี้ วางใจได้เลยครับ!" น้องแชมป์จับมือน้องเบนซ์ไว้แน่น เดินตามติดข้างกายอลินา
น้องเบนซ์เบิกตากลมโตมองดูผู้คนที่เดินขวักไขว่อย่างตื่นเต้น "หม่ามี้ มีคนหน้าตาเหมือนเราเต็มไปหมดเลย!"
พวกเขาเติบโตที่ต่างประเทศมาตลอด นานๆ ทีถึงจะเห็นคนเอเชียที่คุ้นหน้าคุ้นตา ทำให้เด็กชายผู้ร่าเริงอย่างน้องเบนซ์ยิ่งดีใจเป็นพิเศษ
อลินาไปเข็นรถเข็นเด็กมา แล้วจับเจ้าตัวเล็กทั้งหลายใส่ลงไป ด้วยหน้าตาที่จิ้มลิ้มน่ารักแถมยังเป็นแฝดสาม ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างพากันเหลียวมองด้วยความเอ็นดู
ในตอนนั้น เธอตัดสินใจเก็บลูกไว้ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะตั้งท้องแฝดสาม
ความยากลำบากที่ผ่านมาคงไม่ต้องพูดถึง แต่เธอก็รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มีเจ้าก้อนแป้งทั้งสามคนนี้อยู่เคียงข้าง ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขและเติมเต็ม
เดิมทีเธอคิดว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศตลอดไป แต่เมื่อเจ้าแฝดสามถึงวัยต้องเข้าโรงเรียน เธอจึงตัดสินใจกลับประเทศ และอีกเหตุผลหนึ่งคือเธอต้องการกลับมาสืบเรื่องบางอย่างด้วย
"หม่ามี้ เราจะไปไหนกันคะ?"
นิน่า น้องคนเล็กและเป็นสาวน้อยเพียงคนเดียวในกลุ่ม เอียงคอถาม ดวงตากลมโตใสซื่อจ้องมองอลินาตาแป๋ว
"นิน่า เราจะไปบ้านคุณยายทวดกันจ้ะ"
อลินาเรียกแท็กซี่ อุ้มนิน่าไว้บนตัก ส่วนลูกชายอีกสองคนนั่งขนาบข้าง ครอบครัวพ่อแม่ลูก (แต่ขาดพ่อ) ทั้งสี่คนนั่งเบียดกันที่เบาะหลัง
ลุงคนขับแท็กซี่เห็นอลินาเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวพาลูกเล็กๆ มาถึงสามคน ก็อดทักไม่ได้ "ลุงดูแล้วหนูยังอายุน้อยอยู่เลย ลูกสามคนแล้วเหรอ ทำไมออกมาคนเดียวล่ะ พ่อเด็กไปไหน? ปล่อยให้หนูเลี้ยงลูกคนเดียวได้ยังไง?"
ตลอดมา หัวข้อเรื่องพ่อของลูกถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับเด็กๆ อลินามักจะหาข้ออ้างบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย
แต่น้องแชมป์กับน้องเบนซ์ไม่รู้ว่าได้นิสัยใครมา ถึงได้มีความคิดความอ่านโตเกินวัยกว่าเด็กทั่วไป นานวันเข้า อลินาก็เริ่มจะโกหกพวกเขาไม่ได้แล้ว
ในขณะที่อลินากำลังไม่รู้จะตอบอย่างไร น้องเบนซ์ก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วพูดแทรกขึ้นมาว่า "แด๊ดดี้งานยุ่งครับ คุณลุงคนขับ รูปที่ห้อยอยู่นั่นลูกสาวคุณลุงเหรอครับ?"
น้องเบนซ์ชี้ไปที่จี้รูปถ่ายหน้ารถ
"ใช่แล้วจ้ะ ลูกสาวลุงน่าจะโตกว่าพวกหนูสักสองสามปีได้มั้ง!"
พอพูดถึงลูกสาว ความสนใจของคนขับก็ถูกเบี่ยงเบนไปทันที
อลินามองลูกๆ ที่กำลังคุยเจื้อยแจ้วกับคนขับ หัวใจของเธอกระตุกวูบด้วยความรู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อย
ทันใดนั้น เสียงผู้ประกาศข่าวก็ดังมาจากวิทยุ "ต่อไปเป็นรายงานข่าวอุบัติเหตุจราจรล่าสุดครับ คุณกรณ์ ประธานคนใหม่ของบริษัท ศิริเอก ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาการเป็นตายร้ายดีอย่างไรยังไม่ทราบแน่ชัด หากมีพยานผู้เห็นเหตุการณ์ กรุณาติดต่อเบอร์โทรศัพท์ดังต่อไปนี้..."
นิน่าพูดด้วยน้ำเสียงแก่แดดเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย "เดี๋ยวนี้รถชนกันเยอะจริงๆ ขับรถดีๆ นะคะคุณลุงคนขับ!"
ลุงคนขับหัวเราะชอบใจ "เจ้าตัวเล็ก วางใจได้เลย ฝีมือขับรถของลุงไม่ธรรมดา เมื่อก่อนลุงเคยขับรถแข่งเชียวนะ!"
อลินาฟังข่าวจากวิทยุแล้วก็นิ่งเงียบไป
บริษัท ศิริเอก...
ตระกูลศิริเอกผู้โด่งดังและทรงอิทธิพลแห่งเมืองเอช ซึ่งธงชัยก็เป็นเพียงญาติสายรองของตระกูลนี้
กรณ์?
อลินารู้สึกคุ้นชื่อนี้อย่างประหลาด ชั่วขณะหนึ่ง เธอจมดิ่งลงไปในห้วงความทรงจำ
"หม่ามี้! น้ำจะล้นแล้ว!"
เสียงของนิน่าดึงสติอลินากลับมาสู่โลกความจริง อลินาถึงเพิ่งรู้ตัวว่าเธอมัวแต่เหม่อลอย จนทำอะไรไปเหมือนหุ่นยนต์
อลินารีบปิดก๊อกน้ำทันที
หลังจากคุณยายเสียชีวิต ท่านได้ทิ้งบ้านหลังหนึ่งในเขตชานเมือง H ไว้ให้เธอ เมื่อก่อนเธอจะมาทำความสะอาดเป็นประจำ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ข้าวของเครื่องใช้ยังคงเหมือนเดิม มีเพียงฝุ่นที่จับหนา แต่ที่พื้นกลับมีรอยเท้าปรากฏอยู่
คาดว่าธงชัยคงจะแวะมาดูว่าเธออยู่ที่นี่รึเปล่า
พอกลับมาถึง อลินาก็พาเด็กๆ ช่วยกันทำความสะอาด แต่เพราะเธอมัวแต่คิดอะไรเพลินไปหน่อย ถังน้ำที่รองไว้เลยเกือบจะล้น
"นิน่า หนูไปนั่งพักเถอะลูก เดี๋ยวหม่ามี้ถูพื้นเอง"
อลินาหยิบไม้ถูพื้นมา แล้วถามต่อ "พี่ๆ ของหนูไปไหนกันหมด?"
"สู้ๆ นะคะหม่ามี้!" นิน่าให้กำลังใจพลางบอกว่า "พี่แชมป์อยู่หลังบ้าน พี่เบนซ์เมื่อกี้วิ่งมาหยิบทิชชู่ แล้วก็วิ่งออกไปแล้วค่ะ"
สวนหลังบ้านไม่ได้ดูแลมาหลายปี หญ้าขึ้นรกสูงท่วมหัว แถมยังติดกับหน้าผา ยิ่งทำให้ดูวังเวงและรกร้าง
อลินากลัวว่าเด็กๆ จะได้รับอันตราย จึงวางไม้ถูพื้น จูงมือนิน่าเดินไปที่สวนหลังบ้าน
"น้องแชมป์!"
"น้องเบนซ์!"
อลินาอุ้มนิน่าเดินลัดเลาะไปตามทางเดินดินโคลนที่เต็มไปด้วยวัชพืช ปากก็ตะโกนเรียกลูกๆ
"หม่ามี้! พวกเราอยู่ตรงนี้ครับ!"
เสียงน้องแชมป์ดังมาจากพงหญ้าด้านหน้า
อลินารีบเดินเข้าไปหา "พวกหนูมาทำอะไรตรงนี้ลูก?"
น้องแชมป์เงยใบหน้าหล่อเหลาจิ้มลิ้มขึ้นมอง "หม่ามี้ครับ พวกเราเจอคนด้วย"
น้องเบนซ์ลุกขึ้น ยื่นทิชชู่ในมือให้ดู "หม่ามี้ เขาเลือดออกด้วยครับ ยังหายใจอยู่เลย เรารีบช่วยเขากันเถอะ! แบบนี้เราจะได้ค่ารักษาด้วยนะ!"
อลินาถึงเพิ่งสังเกตเห็นชายนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อผ้าขาดวิ่น เนื้อตัวที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาไม่มีตรงไหนที่สมบูรณ์เลย
แม้จะยังมีลมหายใจ แต่อาการก็ร่อแร่เต็มที
ถ้าไม่รีบช่วย คงไม่รอดแน่
อลินามองขึ้นไปที่ยอดหน้าผาสูงชัน มองไม่เห็นแม้แต่ขอบ ชายคนนี้ตกลงมาจากข้างบนนั้น รอดมาได้ถือว่าดวงแข็งมาก
อลินาวางนิน่าลง แล้วนั่งยองๆ เอื้อมมือไปเปิดเปลือกตาของชายหนุ่ม ตรวจชีพจรที่ลำคอ ผ่านไปไม่กี่วินาที เธอก็ลุกขึ้น
ด้วยจรรยาบรรณแพทย์ อลินาตัดสินใจช่วยเขา
กว่าจะแบกร่างชายหนุ่มกลับเข้ามาในบ้านได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร อลินาไม่สนใจคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า วางร่างเขาลงบนเตียง
"หม่ามี้ ผมไปเอากล่องยาให้นะ!"
"หม่ามี้! ผมไปเอาน้ำมาให้!"
"หม่ามี้ หนูจะอยู่เป็นเพื่อนหม่ามี้ จะอยู่เฝ้าคุณลุงสุดหล่อเอง!"
อลินา: "......"
มองลูกสาวที่จ้องมองชายบนเตียงตาไม่กะพริบ อลินาก็อดขำไม่ได้
ถึงแม้ใบหน้าของชายหนุ่มจะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและคราบเลือด แต่ก็ยังพอมองเห็นโครงหน้าคมเข้มและเครื่องหน้าที่งดงามโดดเด่น ไม่ยากเลยที่จะดูออกว่าเขาเป็นคนหน้าตาดีมาก
แต่ไม่นึกเลยว่า นิน่าตัวแค่นี้จะบ้าคนหล่อแต่เด็ก
ไม่นาน น้องแชมป์ก็อุ้มกล่องปฐมพยาบาลมาวาง ดึงมือน้องสาวออกมาแล้วพูดว่า "นิน่า อย่าเห็นใครหล่อก็ชมไปหมดสิ ระวังโตขึ้นจะโดนผู้ชายหลอกเอานะ"
นิน่าทำปากยื่น "ก็คุณลุงคนนี้หล่อจริงๆ นี่นา หนูว่าหน้าเหมือนพี่แชมป์เลยนะ"
มือของอลินาที่กำลังหยิบเข็มชะงักกึก เธอเพ่งมองชายที่นอนหมดสติอยู่อย่างพินิจพิเคราะห์ มองดูคิ้วและดวงตาของเขา... ก็ดูคล้ายน้องแชมป์อยู่ไม่น้อยจริงๆ
"หม่ามี้ หม่ามี้จะจิ้มเข็มแล้วเหรอครับ?!" น้องเบนซ์ตาโตด้วยความตื่นเต้น
พอนิน่าได้ยินคำว่าเข็ม ก็หดคอหนีทันที "ไม่เอาเข็ม ไม่จิ้มเข็มนะ"
อลินายิ้มแล้วบอกว่า "ใช่จ้ะ หม่ามี้จะรักษาคนไข้แล้ว เด็กดี น้องแชมป์พาน้องๆ ออกไปรอข้างนอกก่อนนะลูก"
"ครับผม!"
น้องแชมป์พาน้องเบนซ์และนิน่าออกไปอย่างว่าง่าย
อลินาสูดหายใจเข้าลึกๆ ถอดเสื้อผ้าของชายหนุ่มออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นใน จากนั้นจึงค่อยๆ ฝังเข็มลงไปตามจุดสำคัญต่างๆ บนร่างกายของเขา
รูปร่างของชายหนุ่มกำยำแข็งแรง กล้ามหน้าท้องแปดลูกขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ สายตาของเธอสะดุดเข้ากับหัวไหล่ด้านขวาของเขา
มือที่กำลังฝังเข็มของอลินาหยุดค้างกลางอากาศ รูม่านตาหดเกร็งด้วยความตกใจ
ตรงนั้น... มีรอยฟันจางๆ สีกุหลาบปรากฏอยู่!
คืนนั้นเมื่อ 4 ปีก่อน เพราะความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา อลินาจึงกัดเข้าที่ไหล่ของชายหนุ่มที่อยู่เหนือร่างเธออย่างแรง กัดแรงจนเธอได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง
ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่มีรอยกัดที่หัวไหล่ แต่หน้าตายังคล้ายกับลูกๆ ของเธออีกด้วย
บนโลกนี้จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนั้นเชียวหรือ?
อลินาจ้องมองชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่ด้วยความตื่นตะลึง
